ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง การเติบโตของธุรกิจในอนาคตจะต้องยึดหลักความยั่งยืนเป็นสำคัญ Climate Tech หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและการรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในยุค 2025
เมื่อสภาพอากาศในโลกของเราแย่ลง แต่ธุรกิจยังคงต้องพัฒนา ในปี 2025 ธุรกิจที่ไม่สามารถปรับตัวเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาจต้องเผชิญกับผลกระทบทั้งจากกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น การขาดแคลนทรัพยากร หรือการสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้า Climate Tech เป็นเครื่องมือที่ธุรกิจจะใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน สำหรับธุรกิจเมื่อสภาพอากาศในโลกของเราแย่ลงเพื่อ การเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน
5 เหตุผลสำคัญที่ Climate Tech เป็นเครื่องมือจำเป็นสำหรับธุรกิจเมื่อสภาพอากาศในโลกของเราแย่ลง1.เทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพและการรักษาสิ่งแวดล้อมจึงไม่ใช่แค่กระแส แต่คือสิ่งที่ต้องทำหลายบริษัทเริ่มนำเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนมาใช้ เช่น การใช้พลังงานสะอาดจากแหล่งหมุนเวียน และการปรับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยเพื่อลดการใช้พลังงานและวัสดุ นอกจากนี้ การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและปรับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนและการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ จึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม
2.เปลี่ยนมุมมอง Climate Tech ให้กลายเป็นโอกาสในสร้างธุรกิจใหม่ธุรกิจที่เลือกใช้ Climate Tech ไม่เพียงแต่จะช่วยลดผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม แต่ยังเปิดโอกาสในการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในยุคสมัยนี้ ลูกค้ากำลังมองหาธุรกิจที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและให้ความสำคัญกับความยั่งยืน การนำ Climate Tech มาใช้จะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น
3.โอกาสในการสร้างพันธมิตรและเครือข่ายธุรกิจที่ยั่งยืนการใช้ Climate Tech ยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถสร้างพันธมิตรใหม่ ๆ ที่มุ่งมั่นในด้านความยั่งยืน, ร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ เพื่อพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ และขยายเครือข่ายธุรกิจที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม
4.เพื่อช่วยตอบสนองต่อนโยบายและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น ปัจจุบันหลายประเทศเริ่มออกกฎหมายและมาตรการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เข้มงวดมากขึ้น บริษัทที่ปรับตัวใช้ Climate Tech ก่อน จะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงจากค่าปรับหรือข้อจำกัดทางการค้า อีกทั้งยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรในสายตาของภาครัฐและนักลงทุน
5.สามารถดึงดูดนักลงทุนและลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน นักลงทุนและผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับ ESG (Environmental, Social, and Governance) มากขึ้น ธุรกิจที่นำ Climate Tech มาใช้จะมีโอกาสได้รับเงินทุนและความสนใจจากนักลงทุนที่มองหาโครงการที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความภักดีจากลูกค้าและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสนับสนุนธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้
อยากให้ธุรกิจของคุณเติบโตในยุค 2025?การใช้ Climate Tech ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจของคุณมีผลกระทบเชิงบวกต่อโลก แต่ยังเป็นทางเลือกที่ฉลาดในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันในตลาดที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
—----------------------------------------------------------------------------------------------
Decarbonize Thailand Symposium 2025 เป็นเวทีที่รวมผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วน ที่จะช่วยให้คุณได้เข้าใจลึกซึ้งถึงการใช้ Climate Tech ใน 5 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า, การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, เทคโนโลยีการเกษตร, พลังงาน และเทคโนโลยีการเงินเพื่อสภาพภูมิอากาศ
หากคุณต้องการที่จะก้าวนำธุรกิจสู่อนาคตที่ยั่งยืน มาร่วมกับเรา และเรียนรู้ว่าเทคโนโลยีที่ใช้ในการลดคาร์บอนสามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ และยกระดับธุรกิจของคุณได้อย่างไร
ซื้อบัตร Early Birds ได้แล้ววันนี้และมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในก้าวสำคัญนี้!
https://bit.ly/4hFs8UVสถานที่: ณ Grand Hall ชั้น 3, True Digital Park, ฝั่ง West BTS ปุณณวิถี (ทางออก 6)
วันที่: 20 พ.ค. 2025 เวลา 09:00 - 20:00 (เริ่มลงทะเบียน 09:00)
หากต้องการซื้อบัตรจำนวน 10 ใบขึ้นไป หรือสนใจเป็นผู้สนับสนุนภายในงาน
โปรดติดต่อเราได้ที่
DTS2025@truedigitalpark.comติดตามทุกความเคลื่อนไหวของงานในปีนี้ได้ที่เพจ True Digital Park
#DecarbonizeThailandSymposium2025 #TrueDigitalPark