ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง บทบาทของ AI ในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียง “เทคโนโลยี” แต่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา ทั้งในด้านการทำงาน การเรียนรู้ และการใช้ชีวิตประจำวัน งาน
2025 MIT Bangkok Symposium ซึ่งจัดขึ้นที่
ทรู ดิจิทัล พาร์ค คืออีกก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า AI สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์ และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ที่เราอาจไม่เคยจินตนาการมาก่อน โดยในครั้งนี้
ดร. พัทน์ ภัทรนุธาพร (พีพี) Postdoctoral Associate จาก MIT Media Lab ได้สร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าร่วมงาน ด้วยการเปิดตัว
Moodeng AI Challenge 2025 โปรเจกสุดสร้างสรรค์ที่หวังจะสร้างสะพานเชื่อมโยงมนุษย์ สัตว์ และธรรมชาติเข้าด้วยกัน ผ่านเทคโนโลยี AI
โดราเอมอน: ต้นแบบแห่งแรงบันดาลใจเมื่อย้อนกลับไปในวัยเด็กของ
ดร. พัทน์ การ์ตูนเรื่อง
โดราเอมอน คือแรงบันดาลใจสำคัญที่ปลูกฝังความหลงใหลในเทคโนโลยีให้กับเขา และมองว่าโดราเอมอนเป็นตัวอย่างที่ดีของ Human-AI Interaction
“เทคโนโลยีไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ แต่มาช่วยให้มนุษย์เก่งขึ้นและเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น”โดยแรงบันดาลใจนี้ได้ถูกนำไปต่อยอดจนกลายเป็นงานวิจัยสำคัญมากมาย เช่น
- Wearable Reasoner: อุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการคิดวิเคราะห์ของมนุษย์
- Personalized Virtual Characters: ตัวละครเสมือนที่กระตุ้นการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจ
- Future You: เทคโนโลยีที่ช่วยให้มนุษย์เห็นภาพอนาคตของตัวเอง และปรับเป้าหมายชีวิตได้อย่างชัดเจน
หมูเด้ง: จุดเริ่มต้นของ Moodeng AI Challengeใครจะคิดว่า “หมูเด้ง” ลูกฮิปโปแคระสุดน่ารักจากสวนสัตว์เขาเขียว จะกลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของโปรเจคที่ฉีกกรอบความคิดเดิม ๆ อย่าง
Moodeng AI Challenge สำหรับ
ดร. พัทน์ แล้ว หมูเด้งไม่ใช่แค่สัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่สร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้คนทั่วโลก แต่เป็น “สัญลักษณ์” ของการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์ สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี
“เมื่อมนุษย์เข้าใจสัตว์มากขึ้น พวกเขาก็จะใส่ใจธรรมชาติมากขึ้น” ดร.พัทน์ กล่าวถึงแก่นสำคัญของโปรเจคนี้ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการสร้าง AI ที่ชาญฉลาด แต่เป็นการนำ AI มาเป็นเสมือนสะพานในการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ บนโลก พร้อมผลักดันให้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมรอบตัว
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถอ่านต่อได้ที่
Moodeng AI Challenge 2025AI ที่ยั่งยืน: เมื่อเทคโนโลยีและความร่วมมือขับเคลื่อนอนาคตในมุมมองของ
ดร. พัทน์ เทคโนโลยี AI ที่ดีไม่ได้อยู่ที่ว่ามัน “ทำอะไรได้” แต่ต้องพิจารณาไปถึงว่า “มันทำอะไรกับมนุษย์” เขาเน้นย้ำว่า
“AI ควรเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้มนุษย์เติบโต เข้าใจตัวเอง และสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น” โดยแนวคิดนี้ถูกสะท้อนผ่านทุกโครงการที่เขาทำ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพของมนุษย์และสร้างผลกระทบเชิงบวกในมิติต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม การพัฒนา AI ให้ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างจริงจังในระยะยาว
“AI ต้องการทั้งเวลา ความเข้าใจ และความทุ่มเท” ดร. พัทน์ อธิบาย พร้อมชี้ว่าประเทศไทยแม้จะเริ่มตื่นตัวในเรื่อง AI แต่ยังต้องการการกำหนดทิศทางที่ชัดเจนและความร่วมมือที่ต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้นักวิจัยและผู้พัฒนาสามารถสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์อนาคตและสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง
แง่คิดจาก ดร. พัทน์: เรียนรู้และเติบโตในแบบของคุณดร. พัทน์ ได้ฝากข้อคิดที่เรียบง่าย แต่ทรงพลังถึงนักวิจัยรุ่นใหม่ที่ที่กำลังมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรม
“อย่ากดดันตัวเองให้สำเร็จเร็ว ทุกคนมีจังหวะของตัวเอง เหมือนกับดอกไม้ที่เบ่งบานในเวลาที่ต่างกัน”และยังสนับสนุนให้ทุกคนกล้าลอง กล้าล้มเหลว และมองความผิดพลาดเป็นโอกาสที่จะเติบโต
“เมื่อเรามี Growth Mindset เราจะใจดีกับตัวเองมากขึ้น และสนุกกับการเรียนรู้มากขึ้น”โอกาสในการสร้างสรรค์: เริ่มต้นได้ที่นี่โปรเจค
Moodeng AI Challenge 2025 และงานวิจัยต่าง ๆ ของ
ดร.พัทน์ ภัทรนุธาพร เป็นเครื่องยืนยันชั้นดีว่า AI ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือทางเทคโนโลยี แต่เป็นพลังสำคัญที่จะช่วยให้เราเข้าใจตัวเอง เข้าใจธรรมชาติ และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกได้อย่างแท้จริง
และในฐานะศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ที่เดียว ทุกความเป็นไปได้ เราคือพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ลงมือทำ สร้างสรรค์ และพัฒนาตัวเอง เพื่อสร้างสิ่งที่มีความหมายต่ออนาคตของโลก
“Opportunity is Here” ไม่ว่าคุณจะเป็นนักคิด นักสร้าง หรือคนที่มีฝัน ทรู ดิจิทัล พาร์ค พร้อมสนับสนุนทุกการเริ่มต้นเสมอ!
#AIInnovation #MoodengAIChallenge #MITBangkokSymposium #TrueDigitalPark #OpporturnityIsHere #OneRoofAllPossibilities